UPS คืออะไร UPS (Un-interruptible Power Supply) คือ เครื่องสำรองไฟฟ้าและปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติในกรณีที่ไฟจากการไฟฟ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมา เช่นไฟตก ไฟเกิน ไฟดับ หรือไฟกระชาก เป็นต้น โดยที่ UPS จะจ่ายพลังงานออกมาอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพในทุกสถานการณ์ ตลอดจน เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันความเสียหายที่สามารถเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ (โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อ) รวมถึงมีหน้าที่ในการจ่ายพลังงานไฟฟ้าสำรองจากแบตเตอรี่ให้แก่อุปกรณ์ไฟฟ้าหรือคอมพิวเตอร์ เมื่อเกิดปัญหาทางไฟฟ้า ความสำคัญของ UPSเนื่องจากการส่งจ่ายระบบไฟฟ้า ในทางปฏิบัตินั้นไม่ได้มีการส่งแรงดันไฟออกมา 220 V จริงๆ แต่ว่าแรงดันที่ส่งจ่ายออกมาอาจจะมากกว่า 220 V ดังนั้นก็หมายความว่าโซนที่อยู่ใกล้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแรงดันทางไฟฟ้าจะมาก และแรงดันก็จะลดลั่นกันมาเรื่อยๆตามระยะทางของสายส่ง ทำให้เกิดปัญหาเรื่องไฟตก ไฟเกิน รวมทั้งความผิดพลาดที่อาจจเกิดขึ้นได้ในระบบไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น เรื่องฮาร์โมนิค การแกว่งขึ้นลงของกระแสไฟฟ้า ไฟกระชาก รวมไปถึงไฟดับ สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เกิดความเสียหายกับระบบคอมพิวเตอร์ ระบบสื่อสาร การแพทย์ ระบบอุตสาหกรรม จนถึงระบบการบิน ซึ่งในความเป็นจริงการรบกวนทางระบบไฟฟ้า(Electrical disturbances) เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความสูญเสียทางข้อมูลถึง 45% ดังนั้นระบบ UPS ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องอุปกรณ์ที่อ่ออนไหวต่อการรบกวนทางไฟฟ้า ประเภทของ UPS ประเภทหรือรุปแบบของ UPS จะมีการแบ่งตามลักษณะเฉพาะ โดยแบ่งตามสถาปัตยกรรมทางไฟฟ้าภายในของแต่ละประเภท หรือที่เราเรียกว่า "Topology" ว่าประเภทใดจะให้ประโยชน์ที่เหมาะสมและจำเป็นต่อความต้องการในการป้องกันอุปกรณ์ที่แตกต่างกันออกไป การแบ่งประเภทของ UPS ตามมาตรฐานสากล EN50091-3 แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ Passive Stanby UPSs (Off-line)UPS ที่มี Topology ในแบบ Off-line จะเ้หมาะกับโหลดที่ไม่อ่อนไหวต่อสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า หรือจะต้องเป็นโหลดที่มีแหล่งจ่ายไฟที่มีคุณภาพดี ซึ่งในความเป็นจริงไม่สามารถรับประกันได้ว่าคุณภาพของแรงดันที่จ่ายออกมาจากการไฟฟ้าจะมีคุณภาพดีหรือไม่
ซึ่งการทำงาน ภายใต้สภาวะการทำงานปกติ โหลดจะรับแรงดันไฟโดยตรงจากการไฟฟ้าโดยผ่านอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อปรับปรุงคุณภาพของระบบไฟฟ้า โดยที่แรงดันส่วนหนึ่งจะถูกนำไปชาร์ตแบตเตอรี่ ผ่านอุปกรณ์ charger โดยจะทำหน้าที่เปลี่ยนไฟกระแสสลับ (AC) ให้เป็นไฟกระแสตรง(DC) และถ้าระบบไฟเกิดล่มหรือมีปัญหาขึ้น เช่น ไฟดับ เป็นต้น UPS จะทำารจ่ายแรงดันไฟจากแบตเตอรี่แทนทันทีภายในเวลาเพียง 2-3 มิลลิวินาที โดยผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า Inverter ซึ่งทำหน้าที่แปลงไฟกระแสตรง (DC) ให้เป็นไฟกระแสสลับ (AC) เพื่อจ่ายให้กับโหลด ทำให้โหลดทำงานได้อย่างปกติ
Line interactive UPSs UPS ในแบบ Line interactive มีการปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น โดยให้ Inverter หรือกลไกการทำงานภายในทำงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่แรงดันไฟจากการไฟฟ้าจะคงที่ แต่ว่ามีการเปลี่ยนแปลงความถี่ด้าน output ให้มีความสอดคล้องกับความถี่ด้าน input
UPS ประเภท Line interactive จะเหมาะกับโหลดที่มีความอ่อนไหวต่อการรบกวนทางไฟฟ้าในระดับปานกลางเท่านั้น
Double conversion UPSs (On-line)
UPS แบบ on-line เป็นระบบสำรองไฟที่ประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะกับโหลดที่ค่อนข้างมีความสำคัญมาก สามารถทำงานได้อย่างปกติถึงแม้ระบบการจ่ายไฟฟ้าจะไม่เสถียรก็ตาม
หลักการออกแบบ UPS แบบ on-line นั้น กระแสไฟฟ้าด้าน input จะถูกเปลี่ยนจากไฟกระแสสลับเป็นไฟกระแสตรง และจากนั้นก็จะถูกเปลี่ยนจากกระแสตรงเป็นกระแสสลับอีกครั้ง เพื่อจ่ายให้กับโหลด ดั้งนั้นจะเห็นได้ว่าโหลดจะถูกแยกออกจากการรบกวนในระบบแหล่งจ่ายไฟฟ้าโดยสิ้นเชิง และถ้าระบบไฟฟ้าล่ม หรือมีปัญหาขึ้น โหลดจะรับไฟจากแบตเตอรี่แทน โดยผ่าน inverter ซึ่งจะจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างรบรื่น โดยไม่มีสัญญาณรบกวนใดๆ และในกรณีที่ตัว UPS เองเกิดมีปัญหาขึ้นมา ระบบจะทำการ by-pass ทันที่เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับโหลด
|
6 สถานที่เที่ยวยอดฮิตในกรุงโซล ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด
6 สถานที่เที่ยวยอดฮิตในกรุงโซล ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด
กรุงโซล
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก kpopislandrocks.wordpress.com
เมื่อพูดถึงประเทศเกาหลีใต้ จะนึกถึงอะไรกันบ้างครับ ติ๊กต่อก ๆ ...คิดถึงเหล่าบรรดาศิลปินนักแสดง อาหาร และวัฒนธรรมต่าง ๆ กันใช่ไหมล่ะ ถ้าใช่ ก็ถือว่าตอบถูกครับ แต่ยังไม่ถูกทั้งหมด เพราะสิ่งที่เราจะนำเสนอนี้ ไม่ใช่เรื่องของที่กล่าวมาแต่อย่างใด แต่เป็นสิ่งที่เป็นศูนย์กลางสำคัญของประเทศเกาหลีใต้ต่างหาก ใช่แล้วครับ สิ่งที่จะมานำเสนอในวันนี้ก็คือสถานที่เที่ยวฮอตฮิตของกรุงโซลเมืองหลวงของแดนกิมจินั่นเอง
เมืองหลวงแห่งนี้มีความสำคัญกับเศรษฐกิจของเอเชียเราอยู่พอสมควร อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกด้วย แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าในกรุงโซลนั้น มีสถานที่อันฮอตฮิตที่หากคุณได้มีโอกาสเดินทางไปที่นั่นแล้วล่ะก็ บอกได้คำเดียวว่า "ห้ามพลาดนะจ๊ะ" ไปดูกันว่าทั้ง 6 สถานที่ซึ่งทางเว็บไซต์ Relax.com.sg ได้แนะนำไว้นั้น จะมีที่ใดบ้างและจะฮอตฮิตขนาดไหน ตามไปดูกันเลย !!
1. หมู่บ้านบุกชอนฮันอ๊ก (Bukchon Hanok Village)
หมู่บ้านบุกชอนฮันอ๊กแห่งนี้ ตั้งอยู่ระหว่างพระราชวังเคียงบ๊อคกุง ( Gyeongbokgung Palace) และพระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung Palace) ในอดีตเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ๆ เพราะเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าบรรดาขุนนางระดับสูง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน ซึ่งคนพื้นถิ่นจะเรียกหมู่บ้านแห่งนี้แบบง่าย ๆ สั้น ๆ ว่า "หมู่บ้านบุกชอน" ซึ่งในภาษาเกาหลีจะหมายถึงหมู่บ้านทางเหนือนั่นเอง
2. ย่านวัฒนธรรมอินซา-ดง (Insa-dong Culture District)
เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ เดินจากหมู่บ้านบุกชอนฮันอ๊กลงมาทางใต้ประมาณ 10 - 15 นาที คุณก็จะเจอกับย่านวัฒนธรรมอินซา-ดง ที่มีทั้งห้องแสดงงานศิลปะ ร้านขายเครื่องแกะสลักแบบพื้นเมือง ร้านขายวัตถุโบราณ ภัตตาคารและร้านน้ำชาตามแบบเกาหลีดั้งเดิม ซึ่งนับเป็นสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับวัฒนธรรมเกาหลีแบบดั้งเดิมแท้ ๆ นอกจากนี้ ที่นี้ยังเป็นแหล่งวัตถุโบราณ ทั้งภาพเขียนเก่าแก่ งานเครื่องปั้นดินเผา งานกระดาษ และเครื่องเรือนเก่าอีกด้วย
3. พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)
พระราชวังแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการปกครองในสมัยราชวงศ์โชซอน ในเขตพระราชวัง ประกอบไปด้วยพระที่นั่งต่าง ๆ มากมาย เช่น ห้องประทับของกษัตริย์และพระราชินี ห้องทรงพระอักษร ท้องพระโรง สวนกลางแจ้ง นอกจากนี้ยังมีพระตำหนักเคียวฮเวรู ที่มีลักษณะเป็นอาคารสองชั้น พระตำหนักถูกสร้างให้ยื่นออกไปกลางสระน้ำ เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดงานเลี้ยงพระราชทานนสมัยนั้น
4. มยองดง (Myeongdong)
ถ้าบ้านเรามีสยามสแควร์ เป็นแหล่งช้อปปิ้งของเหล่าวัยทีนทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอางและอื่น ๆ ที่กรุงโซลก็มีย่าน มยองดง หรือเมียงดง เป็นแหล่งช้อปปิ้งเช่นเดียวกัน เพราะที่นี้ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของสินค้าแบรนด์เนมมากมายหลากหลายยี่ห้อ และถ้าเดิน ๆ ช้อปปิ้งจนเริ่มรู้สึกหิวข้าวขึ้นมาแล้วล่ะก็ ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะที่ก็เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยร้านอาหารชั้นเลิศมากมายเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่า "ช้อป", "ชิม", "เที่ยว" มีอยู่ที่นี่ครบ!
5. ตลาดนัมแดมุน (Namdaemun Market)
เปลี่ยนบรรยากาศการช้อปปิ้งของหรู ๆ จากย่านเมียงดง มาช้อปปิ้งที่สำเพ็งบ้านเรา เอ๊ย! ล้อเล่นครับ เปลี่ยนมาเป็นตลาดนัมแดมุนต่างหาก เพราะตลาดนัมแดมุนถือเป็นแหล่งค้าขายสินค้าต่าง ๆ ในราคาถูกและซื้อ - ขายในราคาส่งกันจำนวนมาก ที่นี่มีร้านค้ามากมายให้คุณได้เลือกจับจ่ายซื้อของมากหลายพันร้านค้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอเตือนไว้สักนิดว่าหากใครที่ชอบต่อราคาสินค้า ก็ขอให้ระมัดระวังหรือไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน เพราะพ่อค้าแม่ค้าที่นี่ ไม่เคยปรานีใครง่าย ๆ เหมือนกันนะจ๊ะ...จะบอกให้
6. รถไฟใต้ดิน (Subway)
ไหน ๆ ก็ไปถึงกรุงโซลกันแล้ว คุณก็ไม่ควรพลาดที่จะสัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนด้วยการขึ้นรถไฟใต้ดินในกรุงโซลนั่นเอง การใช้บริการรถไฟใต้ดินในกรุงโซลนั้น ถือเป็นสิ่งจำเป็นและจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปได้มาก แต่อย่างไรก็ดี หากจะใช้บริการรถไฟใต้ดินแล้วล่ะก็ กรุณาพกแผนที่และแผนผังของสถานีต่าง ๆ ติดตัวเอาไว้ด้วยนะครับ เพราะที่กรุงโซลมีสถานีรถไฟใต้ดินเป็นร้อย ๆ สถานีเลยทีเดียว แถมยังแบ่งเส้นทางอีกตั้ง 8 สาย และเชื่อมต่อสถานีไปที่ต่าง ๆ อีกมากมาย ฉะนั้นแล้วอย่าได้ทำแผนที่หายเป็นอันขาดล่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับทั้ง 6 สถานที่อันฮอตฮิตในกรุงโซลที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ เชื่อได้ว่าอย่างน้อย ๆ ทั้ง 6 สถานที่ที่แนะนำไปนี้ก็จะเป็นไกด์นำทางในการท่องเที่ยวให้กับเพื่อน ๆ กันได้บ้าง ว่าแล้วก็ขอตัวไปเก็บกระเป๋าเดินทางไปกรุงโซลก่อนละกัน แล้วจะเที่ยวเผื่อทุก ๆ คนเลยครับผม